แต่งหน้า ทำผม แต่งตัวไปทะเล (ภาคต่อทริปภูเก็ต)

สวัสดีค่ะทุกคน

กักตัวอยู่บ้าน หยุดเชื้อ ช่วยชาติกันเป็นยังไงกันบ้างคะ

ส่วนตัวเราเบื่อมากกกกกก แต่ก็ช่วยกันนะคะ เป็นกำลังใจให้ทุกฝ่ายค่ะ

วันนี้เรามา get ready with me แต่งหน้า แต่งตัวไปทะเล

ต่อจากวิดีโอพาเที่ยวศรีพันวา https://youtu.be/-vmNY_N0iCo อั

นนี้นะคะ

แต่งหน้าลุคเที่ยวทะเล ผิวแทน โกลว์ๆ เป็นลุคที่แพรวถนัดมาก555

มีเพื่อนๆถามมาว่าแต่งยังไงเราก็จัดไป 

มาแต่งหน้าแต่งตัวเพลินๆ  ไปถ่ายรูปสวยๆที่ริมทะเลที่ภูเก็ตกันค่ะ 

วิดีโอนี้แพรวแต่งหน้า ทำผม  แล้วก็ outfit check ให้ดูกันทีเดียวไปเลยนะคะ

พร้อมแล้ว มาาาาาา

ก่อน-หลัง

(ตาจะจิกหน่อย แสงเข้าตามากเลยค่ะ ตาไม่สู้แสง หน้าก็จะร้ายๆนิดนึง55)

วิดีโอ

เครื่องสำอางที่ใช้

Clarins SOS Primer - 00

Clarins Skin Illusion - 114

Shiseido Synchro Skin Concealer - 203

Benefit Boi-ing Concealer - 7

Urban Decay All Nighter Concealer - Med/Dark Warm, Light Warm

Urban Decay All Nighter Setting Powder

Hourglass Ambient Light Edit - Unlocked

เจ้านาง แป้งผสมรองพื้น - 02

Urban Decay Primer Potion Original

Nars Single Eyeshadow - Pattaya

Nars Illuminating Loose Powder - Orgasm

Cosluxe 2-06

Benefit Goof Proof Brow Pencil - 4

Anastasia Dip Brow Gel - Ebony

Benefit High Brow

Fenty Beauty Diamond Bomb - How Many Carats?

Sephora Lip Liner To Go - 17

Maybelline Sensational Liquid Matte - BD Suit On

Fenty Beauty Gloss Bomb

Urban Decay All Nighter Makeup Setting Spray Cherry

แพรวเขียนให้เพื่อนๆที่ไม่สะดวกดูวิดีโออ่านด้วยนะคะ

ถ้าเพื่อนๆอยากดูขั้นตอนแบบละเอียด มีภาพเคลื่อนไหวแนะนำให้ดูวิดีโอค่ะ

(ขออภัยหากภาพไม่ชัด แคปฯมาจากวิดีโออีกทีนะคะ)

แต่งหน้า

1. ทาสกินแคร์และกันแดดให้เสร็จก็เตรียมผิวด้วย Clarins SOS Primer สี 00
เพิ่มความโกลว์ให้ผิวก่อนลงรองพื้น ตัวนี้แพรวว่าโกลว์กำลังสวย ไม่มากเกินไป

คนผิวมันอาจจะไม่เหมาะ แต่ถ้าผิวแห้ง-ธรรมดา อยากได้ผิวฉ่ำๆ ตัวนี้โอเคมากเลย

2. ทารองพื้น Clarins Skin Illusion สี 114 โดยหยดออกมาประมาณ 6 หยดให้ทั่วใบหน้า

รองพื้นตัวนี้จะไม่ค่อยปกปิดมาก แต่จะให้ผิวแบบเป็นธรรมชาติ งานปกปิดต้องขั้นตอนต่อไปค่ะ

3. ผสม Shiseido Synchro Skin Concealer สี 203 และ Benefit Boi-ing Concealer สี  7

ทาปิดใต้ตาดำ ใช้ฟองน้ำเกลี่ยให้เนียน

4. สีผิวไม่สม่ำเสมอใช้ Urban Decay All Nighter Concealer สี Med/Dark Warm และ Light Warm

ผสมกันแล้วทาลงไป ลงแถมตรงจุดที่รองพื้นหลุดง่ายด้วยก็จะดีค่ะ 

เพราะคอนซีลเลอร์ตัวนี้ปกปิดและติดทนดีมากๆๆๆๆๆ ที่สุด

5. เซ็ตทุกอย่างด้วย Urban Decay All Nighter Setting Powder

6. เฉดดิ้งให้หน้าได้รูปด้วยสีบรอนเซอร์จากพาเลต Hourglass Ambient Light Edit Unlocked ตามรูป

7. ทา เจ้านาง แป้งผสมรองพื้น สี 02 ทับลงไปตรงใต้ตาและกลางหน้าอีกรอบเบาๆ

เพื่อความติดทน

8. ทา Urban Decay Primer Potion Original เพื่อให้ eyeshadow ติดทนนานและสีชัด

9. ทา Nars Single Eyeshadow สี Pattaya ให้ทั่วเปลือกตา อย่าให้เกินรอยพับชั้นตา
แล้วใช้แปรงสะอาดเกลี่ยสีตรงขอบให้กลมกลืน ทาที่ขอบตาด้านล่างเยื้องไปทางหางตาด้วย

10. ทา Nars Illuminating Loose Powder สี Orgasm บริเวณหัวตา ตามภาพ

11. ติดขนตาปลอม Cosluxe 2-06

12. เขียนคิ้วด้วย Benefit Goof Proof Brow Pencil สี 4

13. เพิ่มความฟูเข้มให้คิ้วด้วยการปัด Anastasia Dip Brow Gel สี Ebony

14. ปัดแก้มด้วยสีจาก Hourglass Ambient Light Edit Unlocked
ผสมๆสีกันเน้นสีชมพู ปัดลงบริเวณตามภาพ

15. ไฮไลท์ ปัด Nars Illuminating Loose Powder สี Orgasm บริเวณตามภาพ

16. เพื่อให้คิ้วเป๊ะ ทา Benefit High Brow ใต้คิ้ว ใช้แปรงเกลี่ยให้กลมกลืน

17. เพื่อให้ผิวดูเปียกๆ วาวๆ ปัด Fenty Beauty Diamond Bomb สี How Many Carats?
ทับลงไปตรงจุดสูงสุดของแก้ม

18. เขียนขอบปากให้เกินนิดๆทั้งบนและล่างด้วย Sephora Lip Liner To Go สี 17

19. ทา Maybelline Sensational Liquid Matte สี BD Suit On ให้ทั่งทั้งปาก

20. คงคอนเซ็ปต์ความฉ่ำ ทา Fenty Beauty Gloss Bomb ทับลงไป
เน้นกลางริมฝีปาก

21. ฉีด Urban Decay All Nighter Makeup Setting Spray Cherry
ให้ทั่วใบหน้าเพื่อให้เมกอัพติดทน

ทำผม


ผมไม่ได้ทำอะไรมากค่ะ รวบตึง เพราะว่าแต่งหน้าฉ่ำๆแบบนี้
ไปทะเลแบบนี้ ลมตีค่ะ ถ้าไม่รวบจะพลาดมากเวลาถ่ายรูปริมทะเล
ลมจะตีผมมากๆ เราก็ตัดปัญหา รวบตึงไปเลยค่ะ


Utena Matomage สีเขียว ถ้าไม่มีอันนี้งานรวบตึงจะยากมากค่ะ
อันนี้เป็นแว็กซ์ใส่ผม เวลาใช้ให้ถูไปบนผมโดยตรงเลยให้อารมณ์เดียวกับกาวแท่งค่ะ555
มันจะเก็บลูกผมไปหมดเลยดีมากๆค่ะ

รวบไว้ให้ผมอยู่ประมาณหูบน แล้วปาดแว๊กซ์ทับอีกที

ปิดเหม่งด้วยแป้ง Mamonde Pang Pang Hair Shadow สี 01 
สีเข้มเหมือนผมเราเลยค่ะ ปิดตรงที่เว้าตรงตีนผมได้ ดีมากนะคะ เนียนดี

Outfit


อยากได้ลุคที่ไปทะเลแต่ดูแบบไม่ทะเลมากนัก
เอาเป็นกลางๆไปไหนมาไหนได้
ชุดที่ใส่วันนั้นท่อนบนเป็นชุดว่ายน้ำค่ะ
ความยาวกำลังดีแพรวใส่เป็น crop top
ท่อนล่างเป็นกางเกงเอวสูงผ้าบางเบา สีเขียวขี้ม้า
รองเท้าก็แตะค่ะ แต่ตรงคีบเป็นหนัง สีนู้ด ก็ดูหรูขึ้นมานิดนึง
เครื่องประดับสีทองเป็นรูปหอยแมงภู่ น่ารักมากค่ะ ให้ฟีลทะเลสุดๆ

ชุดนี้สะพายกระเป๋าสาน หมวกสานปีกกว้างอีกซักใบ
ใส่แว่นกันแดดซักนิด ได้ฟีลเมืองร้อนมากค่ะ



แถมรูป

ลุคเดียวกันนี้แหละ
เปลี่ยนชุดแล้วก็ปล่อยผมค่ะ

 แสงแยงตามาก คิ้วขมวดเหมือนโกรธใครมาเลยอ่ะ แฮะๆ

(รูปนี้แคปมาจากวิดีโอค่ะ ฉ่ำ555)





จบแล้ว

หวังว่าเพื่อนๆจะชอบนะคะ

ไว้พบกันใหม่ค่ะ

บาย

รีวิว อาหารเสริมที่กินอยู่ช่วงนี้ เสริมกล้ามเนื้อ ผิวสู้แดด ริ้วรอย บำรุงสายตา เสริมภูมิคุ้มกัน

สวัสดีค่ะทุกคน

วันนี้เราจะมารีวิวอาหารเสริมที่เรากินอยู่ช่วงนี้ค่ะ

ส่วนตัวเราอายุจะ 30 ปีแล้ว

ทำงานหน้าจอคอม ใช้สายตาเยอะมาก ออกกำลังกายค่อนข้างหนัก

และโดนแดดเยอะ เพราะว่าอาบแดดให้ผิวสีแทนเป็นประจำ

อย่างน้อยก็สัปดาห์ละครั้ง ครั้งนึงก็โดนแดดเป็นเวลา 1-2 ชม.ต่อเนื่องนะคะ

ความกังวลของเราก็จะวนอยู่รอบกิจกรรมเหล่านี้เป็นหลัก

เพราะว่าอย่างการอาบแดดเราก็ทราบดีว่าย้อนแย้งกับการที่จะมีผิวอ่อนวัยไร้ริ้วรอยมาก 

แดดนี่เป็นตัวดีเลยที่ทำให้แก่และเหี่ยว แพทย์ผิวหนังทุกคนบอกให้หลีกเลี่ยง 

และเวลาออกแดดก็เริ่มรู้สึกว่าตาไม่สู้แสง จะเคืองตาเวลาต้องจ้องแสงจ้าด้วยค่ะ

เราก็ทราบดีค่ะ แต่ว่าเรามา way นี้ ก็ต้องเป็นไปตามนั้น555

ก็มาเน้นเรื่องของการดูแลตัวเองเอานะคะ

จริงๆอาหารเสริมพวกนี้เรากินเป็นประจำอยู่แล้ว

ทดลองเปลี่ยนยี่ห้อไปบ้างแต่หลักๆมักจะเป็นสารอาหารตัวเดิมค่ะ

อ่านก่อนซักนิด

*ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดเรากินจริงอย่างต่อเนื่องนะคะ

*ผลิตภัณฑ์บางชิ้นเราซื้อเอง บางชิ้นแบรนด์ก็ส่งมาให้ลองกินนะคะ

พร้อมแล้ว ตามมาดูกันเลยค่ะ

1. Now Sports Pea Protein Protein Powder 

ตัวนี้เป็นโปรตีนที่เรากินเสริม เพราะว่าเวลาออกกำลังกาย 

ร่างกายจะสร้างกล้ามเนื้อก็ต้องใช้โปรตีนค่ะ โปรตีนตัวนี้เป็นผงแบบ Whey protein ที่เห็นชงดื่มหลังเวทกันทั่วไป 

แต่ว่าเป็น Plant-based มาจากพืชค่ะ มาจากถั่ว (Pea) ไม่ได้มาจากนมวัว 

เอาจริงเราไม่ได้เป็นมังสวิรัติอะไรหรอก แต่ว่าปกติจะไม่ค่อยทานเนื้อสัตว์อยู่แล้วค่ะ 

โปรตีนจากนมเราทราบมาว่ามันไม่ค่อยจะส่งผลดีกับร่างกายเท่าไรนัก 

แลคโทสในนมวัวย่อยยากด้วย ข้อดีก็สูสีไล่บี้มากับข้อเสียแบบกินกันไม่ลง 

เราก็หลีกเลี่ยงการทานนมวัวมาพักใหญ่แล้วค่ะ แต่ว่าเวลาหลังเวทต้องกินโปรตีน 

เราก็ไปเจอตัวนี้ที่เป็น Plant-based protein

1 scoop ให้โปรตีน 24 กรัม ให้พลังงาน 120 kcal  (พอๆกับ Whey isolate ที่ทานเมื่อก่อนเลยค่ะ) 

แล้วก็ไม่มีรส (รสธรรมชาติของมันเหมือนขนมโก๋ค่ะ) ทานไม่ยาก แฮปปี้นะ 

ไม่รู้ว่าคิดไปเองมั้ยแต่รู้สึกว่ากินแล้วร่างกายเบาสบายดีด้วยค่ะ

2. BRAND’S Blackcurrant Extract with Lutein and Zeaxanthin

ตัวนี้เพิ่งมาเริ่มกินปีนี้ค่ะ เริ่มมาหาข้อมูลเมื่อช่วงต้นปี

เพราะว่าชีวิตนี้รู้สึกเหมือนถูกล้อมรอบ ดักหน้า ดักหลังด้วยจอต่างๆ ตลอดเวลา 

คอม ทีวี ไอแพด โทรศัทพ์ smart watch อะไรไม่รู้เยอะไปหมด 

ส่วนตัวเราเป็นคนตาค่อนข้างแห้งอยู่แล้ว ใส่คอนแท็กเลนส์ เมื่อก่อนใส่แบบสี บิ๊กอายบ้างอะไรบ้างตามเรื่อง 

ก็หลีกเลี่ยงแล้วก็เปลี่ยนมาใส่แบบใส แต่มันก็ยังตาล้าค่ะยิ่งออกแดดต้องมองแสงจ้ายิ่งแล้วใหญ่ 

แล้วก็ตาแห้ง หลังๆมามีปวดหัว ปวดลูกตาบ่อยขึ้นช่วง PM 2.5 รอบที่แล้วที่มันสูงติดต่อกันนานๆ 

ตาเราน่าจะโดนเต็มๆเลยค่ะ เยื่อบุตาอักเสบ ต้องไปหาจักษุแพทย์ งานงอก ต้องกินยา หยอดตากันไป 

พอตาเป็นอะไรแล้วลำบากค่ะทำให้เราค่อนข้างซีเรียสเรื่องตาพอสมควร

ตัวนี้จะมี สารสกัดจาก Blackcurrant ที่เป็นผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ 

มี Lutein(ลูทีน) และ Zeaxanthin (ซีแซนทิน) หลักๆ ก็จะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ

เข้าไปช่วยยับยั้งการออกซิเดชั่นที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเซลล์ 

โดยเฉพาะเซลล์ของจอประสาทตาแล้วก็ช่วยกรองแสงที่จะเข้ามาทำลายตา 

เช่น แสงอาทิตย์และแสง blue light จากจอต่างๆ 

ส่วนตัวเรากินแล้วก็ว่าดีนะ เพราะรู้สึกเหมือนตาได้รับการปกป้องเพิ่มขึ้นค่ะ

ซื้อผ่านเว็บไซต์ http://bit.ly/2WlMdZE
รีวิวในพันทิป https://bit.ly/2UwWMGC
ราคาสมาชิกเพียง 1,100 บาท จากราคาปกติ 1,220 บาท และที่สำคัญส่งฟรีทั่วไทย!
หรือจะซื้อผ่านไลน์ LINE : @BrandsCare ก็สะดวกนะจ๊ะ

3. Vistra Acelora Cherry 1000 mg & Mega We Care Nat C

วิตามินซีขอรีวิวรวบเลยนะคะเพราะกินสลับๆกันไป

ทั้งสองตัวเป็นวิตามินซีจากธรรมชาติทั้งคู่

จริงๆวิตามินซีมีประโยชน์หลายอย่างค่ะ ยิ่งช่วงนี้มีไวรัสระบาดยิ่งต้องกินเลย

มันช่วยให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายแข็งแรงขึ้น กันเป็นหวัดง่าย

แถมยังช่วยเรื่องผิว ให้ผิวใส ผิวแข็งแรงขึ้น เพราะว่ามันช่วยต้านอนุมูลอิสระ

แล้วก็เสริมการสร้างคอลลาเจนในผิวและทำให้หลอดเลือดแข็งแรงด้วยค่ะ

ตัว Vistra Acelora Cherry จะมีเพิ่มพวกสารบำรุงความงาม บำรุงผิว เข้ามาด้วย 

เช่น สารสกัดจากทับทิม เมล็ดองุ่น ไลโคปีน เป็นต้น 

ส่วนของ Mega We Care Nat C จะมีสารสกัด Acelora แล้วก็ Rosehip เสริมเข้ามาค่ะ

ราคาก็ไม่ห่างกันมาก เราก็เลยกินสลับๆกันค่ะ กันร่างกายชิน

วิตามินซีนี้เรากินของเราเป็นประจำอยู่แล้วค่ะ 

ใครยังไม่ได้กินอยู่ ลองกินดูนะคะ มีผลดีต่อร่างกายหลายประการ

เราว่ามันก็ช่วยหลายอย่างเลยนะ นอกจากเรื่องภูมิคุ้มกันแข็งแรงต่างๆ 

อย่างเราว่าเราเป็นคนรอยสิวจางค่อนข้างเร็ว ทั้งๆที่ไม่ได้ไปทำอะไรกับมันมาก 

ส่วนตัวคิดว่ามันต้องมาจากวิตามินซีที่กินเนี่ยแหละค่ะ555

4. Kombucha คอมบุชา

Kombucha คือ ชาหมักค่ะ อันนี้เราหมักเองกินเองเป็นงานอดิเรกมาเป็นปีแล้ว

ให้ความรู้สึกเหมือนเลี้ยงต้นไม้เลยค่ะ555 แต่ว่าดื่มได้และมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายอย่าง

ต้องขออธิบายก่อนสั้นๆว่าการทำ Kombucha ก็คือเอาชามาเติมน้ำตาลให้หวาน

จากนั้นใส่ SCOBY (symbiotic colony of bacteria and yeast) เข้าไปเพื่อให้มันย่อยน้ำตาลในชา 

ก็จะได้ออกมาเป็นชาหมักที่มี probiotic bacteria มีความซ่า มีรสเปรี้ยวคล้ายๆ apple cider

คุณประโยชน์ของ Kombucha บางคนก็บอกว่ามันช่วยเรื่องสุขภาพหลายอย่างแบบครอบจักรวาลมากจนไม่น่าเชื่อ 

บางคนก็บอกว่าเป็นข่าวลือ ใครอยากรู้ไปลองหางานวิจัยอ่านเอานะคะ 

เราขอยกตัวอย่างที่เป็นที่พอจะทราบกันดีนะคะ เช่น อุดมไปด้วยแบคทีเรียชนิดดี (Probiotics) 

ซึ่งจะเข้าไปส่งเสริมให้สภาวะแวดล้อมในลำไส้สุขภาพดี ช่วยเรื่องการย่อยอาหาร การขับถ่าย 

ลดการอักเสบในลำไส้ และอาจช่วยลดน้ำหนักได้ด้วย ทั้งมีสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidants) สูง 

ยังมีประโยชน์ที่เค้า claim กันอีกมากมายค่ะ เพื่อนๆที่สนใจก็ไป google หาอ่านดูได้

ส่วนตัวเรากินตัวนี้เพราะอยากได้เรื่อง probiotics, antioxidants และเรื่องการย่อยอาหารค่ะ 

เท่าที่กินมาตลอดเลยเราว่ามันดีนะคะ อย่างน้อยๆเลยก็สดชื่น แทนน้ำอัดลมได้ดีมากๆ 

อร่อยกลมกล่อมแบบแปลกๆ ไปซื้อกินข้างนอกก็ราคาสูงค่ะ กินหลังมื้ออาหารที่มันๆ ทอดๆ เราว่าช่วยไล่ความมันได้ดีมากค่ะ 

เอาเป็นว่าดี เราชอบ และจะกินเสริมต่อไปค่ะ

จบแล้ว

หวังว่าที่เราแชร์จะพอเป็นข้อมูลให้เพื่อนๆที่สนใจกำลังหาอาหารเสริมอยู่ได้ใช้ประกอบการพิจารณานะคะ 

หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยค่ะ

ขอลาตรงนี้ ไว้พบกันใหม่

สวัสดีค่ะ

เที่ยว ศรีพันวา ภูเก็ต 3 วัน 2 คืน (เที่ยวแบบไม่ออกจากโรงแรม)

สวัสดีค่ะทุกคน

วันนี้แพรวจะพามาเที่ยวภูเก็ตรอบที่ 40 (หลอกๆ555)

ก็มาหลายทีแล้ว แต่คราวนี้เราจะพามาเที่ยวภูเก็ตแบบไม่ออกจากโรงแรมค่ะ
เป้าหมายเลย คือ อยากพักผ่อนในที่สวยๆ อยู่สบายๆ สงบๆ

เหตุผลที่เลือกโรงแรมนี้เพราะโรงแรมสวย มีกิจกรรมสวยๆให้ทำ

และยังมีมุมสวยให้ถ่ายรูปแบบจุใจมาก

เรียกได้ว่ามา 3 วัน 2 คืน โพสต์รูปไปได้ 2 อาทิตย์จ้ะ

คราวนี้เรานอนที่โรงแรมศรีพันวา ภูเก็ต 

(เที่ยวเองไม่มีสปอนเซอร์ค่ะ ถ้ามีใครเป็นสปอนเซอร์ก็คือคุณน้าของเราเนี่ยแหละค่ะ55)

เราไปเที่ยวกับคุณน้าสองคนเป็นทริปน้าหลานช่วงวันเกิดคุณน้าพอดีค่ะ

ก่อนอ่าน อยากบอก

*ทริปนี้เที่ยวเองไม่มีสปอนเซอร์นะคะ

*ค่าใช้จ่ายเราขออนุญาตไม่แจกแจงนะคะ เพราะว่าเราไม่ได้เป็นคนจ่ายค่ะ

*วิดีโอถ่ายเป็นแบบ vlog นะคะ พาไปดูด้วยกันว่าเราเห็นอะไรบ้าง ทำอะไรบ้าง

ก็จะเห็นหน้าเราพูดเยอะหน่อยนะคะ

นี่เป็นครั้งแรกของเราเลยที่ไปเที่ยวโดยที่ไม่ออกจากโรงแรมเลย

ด้วยความที่โรงแรมไกลจากตัวเมือง แล้วก็ไปแค่ไม่กี่คืน

ก็เน้นใช้ชีวิตอยู่ในโรงแรมเก๋ๆ เดินไป เดินมา ถ่ายรูป ว่ายน้ำ อาบแดด จิบเครื่องดื่ม ประมาณนี้ค่ะ

โรงแรมศรีพันวา ภูเก็ต สวยงามหรูหรา 

แล้วเราไปกันเป็นผู้หญิงสองนาง ก็ต้องเน้นถ่ายรูปอยู่แล้วล่ะค่ะ555

ผลัดกันถ่าย ได้รูปออกมาเยอะมาก สวยหลายรูป 

เดี๋ยวขออนุญาตโพสต์ให้ดูแทรกไปด้วยนะคะ

(คุณน้าถ่ายรูปสวยมากค่ะ555)

ตอนนี้พร้อมแล้วก็มาดูวิดีโอกันเลยค่ะ

วิดีโอ

(เพื่อความคมชัดโปรดรับชมแบบ HD)

รายละเอียดทริปเพิ่มเติมจากในวิดีโอแพรวจะเขียนให้อ่านตรงนี้นะคะ
มีภาพประกอบด้วย (ขออภัยหากภาพไม่ชัด แคปฯมาจากวิดีโออีกทีค่ะ)



การเดินทาง

จากกรุงเทพฯไปภูเก็ตก็มีหลายสายการบินให้เลือก
คราวนี้เราบิน Thai Smile บินจากสุวรรณภูมิ ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.ครึ่ง
เผลอแป๊บๆถึงแล้วค่ะ

ตอนที่ไปเมื่อต้นเดือนก.พ. ก็เริ่มมีการแพร่ระบาดของ COVID-19 แล้วค่ะ
ไม่มีนักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่มาเที่ยวแล้วมันเงียบมาก
โล่งไปหมดเลยค่ะ โรงแรม สนามบิน โล่งไปหมด
จะว่าดีก็ดี มันไม่แออัด หายใจหายคอคล่อง
จะว่าไม่ดีก็คนทำมาหากินก็ซบเซา เป็นกำลังใจให้ทุกฝ่ายค่ะ

อันนี้คุณน้าจองรถจากทางโรงแรมให้มารับจากที่สนามบิน
เค้าแจ้งว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ชม.จากสนามบินภูเก็ตไปแหลมพันวา
(ดูใน google maps มันคนละฟากของภเก็ตเลยค่ะ)
เราก็นอนหลับยาวเลย ตื่นมาอีกทีคือคุณน้าปลุก เพราะเค้าแวะให็ซื้อของที่เซเว่นก่อนเข้าโรงแรมค่ะ

 (รถตู้เบาะหลับสบายมาก)





โรงแรม

พอถึงโรงแรมก็เช็คอิน โรงแรมศรีพันวานี้จะอยู่บนเขาค่ะ ทางขึ้นวิ่งรถค่อนข้างชัน
ล็อบบี้จะอยู่ที่นึง แล้วส่วนห้องพัก วิลล่าต่างๆก็จะกระจายตัวกันอยู่เป็นโซนๆไป
มันจะมีความชวนหลงเบาๆเพราะว่าทางในนั้นจะมีต้นไม้เยอะเหมือนกันไปหมดค่ะ
ต้องเดินไปเดินมาพอสมควรถึงจะเข้าใจทาง
แต่ว่าถ้าเราไม่อยากเดินหรือกลัวหลงก็มีรถตุ๊กบริการพาไปทุกที่ค่ะ

 (ก่อนเค้าไปส่งที่ห้องจะมีพนักงานมาอธิบายแผนที่โรงแรม กันลูกค้าหลง555)

 (วิวจากล็อบบี้)

 (รถตุ๊กที่นี่รอไม่นานค่ะ น่าจะมีเยอะหลายคันแล้วแขกคนไม่เยอะมากช่วงที่ไป)





The Habita

ได้ยินมาว่าเป็นตึกสร้างใหม่
เรากับคุณน้าได้ห้องที่เป็น Penthouse ชั้นบนสุด
คือ มีห้องนั่งเล่นแยกจากห้องนอน แล้วก็มีสระน้ำอยู่ตรงระเบียงค่ะ
เราชอบที่เพดานค่อนข้างสูง ให้ความรู้สึกโปร่งค่ะ
แสงเยอะด้วยเพราะว่าหน้างต่างก็คือประตูกระจก รับแสงเต็มๆเลยค่ะ
เราชอบการใช้สีในการตกแต่งที่ค่อนข้างเป็นสีเบจกับไม้ ให้ความรู้สึกกลางๆ
อบอุ่น เป็นมิตร เรายังชอบผนังที่มี texture มันรู้สึกมีมิติ ไม่น่าเบื่อด้วยค่ะ

(เปิดประตู้เข้ามาเป็นห้องนั่งเล่น - ขออภัยย้อนแสง ดูแบบไม่ย้อนแสงได้ในวิดีโอนะคะ)

(โซฟาสบายมาก อยู่กัน 2 คนคือ ดีมาก ไม่อึดอัดเลยค่ะ)

 (มีเคาน์เตอร์ครัว และมีโต๊ะกินข้าวเป็นเรื่องเป็นราว)

 (ห้องนอนเปิดประดูไปก็ลงสระเลยค่ะ)

 (ห้องน้ำอยู่ด้านหลังเตียง)

 (อ่างล้างหน้าเป็น double sink ของใครของมัน)

 (อ่างอาบน้ำเป็นแบบ freestanding)

 (วิวจากระเบียงห้อง)

(วิวจากล็อบบี้ตึกที่เราพักค่ะ ด้านล่างจะมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่)

Baba Pool Club/Baba Iki

ในโรงแรมมีห้องอาหารหลายที่ค่ะ แต่ละที่ก็เสิร์ฟอาหารแตกต่างสไตล์กันไป
เรากับคุณน้ากว่าจะจัดแจงข้างของที่ห้องเสร็จก็หิวมากเพราะว่าเลยเวลาเที่ยงมาพอสมควรค่ะ
เรียกรถตุ๊กมาที่ร้านอาหารญี่ปุ่นมาที่ตึก Baba Pool Club
ร้านชื่อ Baba Iki ค่ะ มองลงไปจากโต๊ะที่ได้นั่งก็เห็นทะเลเรียบสงบ
แม้อากาศจะร้อนแต่ก็อยากนั่งด้านนอกรับลมทะเลค่ะ
อาหารที่ร้านก็จะมีตั้งแต่ซูชิ โรล Omakase Yakitori มีครบหมดค่ะ
ปลาสดดีด้วย อร่อยดีค่ะ

(มองไปทางไหนก็เจอทะเล)

อิ่มแล้วเราก็เดินย่อยกลับห้องค่ะ จะได้ดูโน่นดูนี่ด้วย

 (แผนที่ในโรงแรม มีอะไรให้ทำเยอะเลยค่ะ)

(หน้าทางเข้าสปา สีน่ารักเหมาะจะถ่ายรูปซักหน่อย)

(ก็ถ่ายสิจ๊ะ ไม่พลาดนะจ๊ะ555)




Baba Nest

จะเรียกว่าเป็น highlight ของศรีพันวาก็คงไม่ผิดนัก
ใครๆมาที่ศรีพันวาก็อยากมาที่ Baba Nest ค่ะ แถมจองยากอีกต่างหาก
ที่นี่ก็จะเป็นร้านอาหารที่อยู่จุดสูงสุดของแหลมพันวา ได้วิวทะเล 360 องศา
พร้อมร้อมรอบไปด้วย infinity pool ที่ลงไปว่ายน้ำได้จริงๆไม่ได้ตื้นๆเป็น reflecting pool เท่านั้น
เรียกว่าได้ดื่มด่ำจมหายไปกับวิวพระอาทิตย์ตกแบบเต็มๆ
แถมยังนอนดูดาวต่อได้อีกเพราะว่าที่นั่งเป็น bean bag
จะนั่ง จะเอน เอาตามใจชอบได้เลยค่ะ
เรากับคุณน้าก็อยู่กันจนเกือบ 2 ทุ่มค่ะ นั่งยาว ลมพัดเย็นด้วย เพลินๆ

ที่นี่ถ้าเป็นแขกในโรงแรมเค้าให้สั่งขั้นต่ำ 1,000 บาท/คน
(ซึ่งครบอย่างรวดเร็วค่ะ เพราะว่าดริ๊งค่อนข้างแพง555)
ถ้าไม่ได้พักที่โรงแรมให้สั่งขั้นต่ำ 2,000 บาท/คน ค่ะ

(มีรูปคู่กันน้อยมาก เพราะส่วนใหญ่ผลัดกันถ่ายค่ะ555)

(จังหวะพระอาทิตย์ตกนี้แสงก็ถ่ายรูปสวยมากนะคะ)

(ดูพระอาทิตย์ตกที่นี่มันช่างน่าอภิรมย์ค่ะ สถานที่สวย วิวสวย เพลงเพราะอีกต่างหาก)

Breakfast

อาหารเช้าเค้าจัดไว้ที่ Baba Pool Club ที่เดิมค่ะ

ถ้าจำไม่ผิดมีตั้งแต่เช้าตรู่ถึงประมาณ 10 โมง

เราสามารถเลือกมานั่งริมสระว่ายน้ำ ติดทะเล ได้ด้วย

ได้วิวได้บรรยากาศแต่อาจจะต้องเดินไปตักอาหารไกลนิดนึง

อาหารไม่ได้เป็นบุฟเฟ่ต์อย่างเดียวนะคะ มีที่เราสามาถสั่งจากเมนูได้ด้วย

เช่น egg benedict truffle sauce, แพนเค้กกล้วยหอม, french toast เป็นต้น 

เค้าก็จะยกมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะค่ะ

 (จัดวางให้ดีก็ instgrammable มากเลย)

(รูปนี้ถ่ายที่ใต้ Baba Pool Club ค่ะ ส้มๆ ได้อีกฟีลนึง)



Beach

ชายหาดของศรีพันวามีที่เดียวค่ะ
จะมีทางเดินลงไป หาดจะเล็กหน่อย
กว่าจะเดินถึงหาดก็จะมี Beach Pool เป็น infinity pool ที่เหมาะแก่การถ่ายรูปอีกที่
หาดที่นี่ไม่ใหญ่ค่ะ ขนาดก็น่าจะพอรองรับแขกได้พร้อมกันประมาณ 10-20 เอาแบบไม่อึดอัด
หาดเป็นหาทราย แต่ก็มีหิน บนหาดเป็นทราย เดินลงทะเลไปเป็นหินค่ะ
ถ้าอยากไปหาดทรายแบบสวยแบบในภาพวาดก็อาจจะไม่ใช่ที่นี่
แต่แพรวไม่ขอบ่นค่ะเพราะว่าวันที่ไปหาดกัน มีเรากับคุณน้า 2 คน
หาดส่วนตัวมากๆ นอกจากพนักงานรักษาความปลอดภัยชายหาดก็ไม่มีใคร
ก็ต้องบอกตรงๆว่าฟินมากค่ะ555

( Beach Pool จะเข้าห้องน้ำต้องเดินขึ้นมา ก็มีหอบเบาๆนะคะ)

(ถ่ายจาก Beach pool ช่วงเช้าก็จะได้แสงประมาณนี้)

(เดินค่อนข้างหลายชั้นกว่าจะถึงชายหาดค่ะ)



(ก็หยุดเพื่อถ่ายรูปไปเดินไป ก็เลยนานกว่าจะถึง)

 (มีอุปกรณ์ทางน้ำให้ยืมเล่นฟรี)

(พาย paddleboard ไป กลัวตกไป ปกติเราไม่กลัว แต่ว่าที่นี่ข้างล่างเป็นหิน เราเกร็งกลัวตกมากค่ะ

แถมช่วงที่ไปมีแมงกะพรุนอีก แม่จ๋า มันลอยมาคู่กับบอร์ดเลยจ้ะ ฮรือออออ)

 (ทุ่นกลางทะเลที่นี่ก็เป็นอีกจุดที่เหมาะกับการถ่ายรูปค่ะ ถ่ายออกเห็นทะเลก็สวย
ถ่ายเข้าเห็นเกาะก็ส่วยค่ะ)

Penthouse

วันที่สองเราดูพระอาทิตย์ตกกันจากที่ห้องค่ะ

เป็นวันเกิดก็ฉลองเปิดแชมเปญจิบกันสองคนน้าหลานค่ะ 

ถ่ายรูปจากสระน้ำที่ห้องพร้อมชมพระอาทิตย์ตกสวยๆ

เรียบง่าย แต่ดีต่อใจมาก

(ตั้งใจเฝ้าดูพระอาทิตย์ตั้งแต่เริ่มคล้อยจนตกดิน)

(แสงตอนพระอาทิตย์ตก รูปก็จะเท่ห์ประมาณนี้แหละพี่จ๋า)



Pool Bar

ไหนๆก็วันเกิดแล้ว มืดแล้วก็เลยออกมาดื่มต่อกันนิดหน่อยค่ะ
เค้ามี Pool Bar อยู่ตรง Baba Pool ที่เรามากินข้าวเช้า
เราก็สามารถสั่งเครื่องดื่มแล้วก็อาหารไปนั่งตรงคอกที่มี reflecting pool ล้อมรอบได้ค่ะ
ติดทะเลด้วย ลมทะเลกลางคืนพัดสบายๆ ที่นี่เค้าจัดแสงไฟจัดสวยงามด้วยค่ะ

(Prosecco กับ Antipasti Platter เมื่อตอนหมดวัน คือ ดีย์)

ปิดท้าย

เราชอบทุกอย่างที่ศรีพันวานี่
แต่ขอเตือนว่ายุงดุมากค่ะ มันโหดเหี้ยม
มันพุ่งตัวแล้วแลนดิ้งบนผิวเราด้วยปากของมันเลย
จิ้มจึ้ก คันนนนนนนนน มาก อาจเพราะเราแพ้ยุงด้วย
มันอยู่ทุกที่นะคะ ที่บีช กลางแดด มันยังบินไปกัดเราได้เลยค่ะ
ยุงตัวใหญ่และแข็งแรงมาก เพราะว่าป่าเยอะ มันคือยุงป่าค่ะทุกคน
แนะนำให้พกผลิตภัณฑ์กันยุงที่คุณไว้วางใจไปด้วยค่ะ จะได้อยู่รอด ไม่โดนยุงหามนะคะ

หวังว่าเพื่อนๆจะอ่านแล้วสนุกเหมือนไปเที่ยวกับเรานะคะ

มีคอมเม้นต์อะไร ทิ้งไว้ด้านล่างได้เลยค่ะ ยินดีรับฟังค่ะ

ขอบคุณที่รับชม แล้วไว้พบกันใหม่นะคะ


สวัสดีค่ะ