Beauty is my Passion

Phaptawan

Thursday, October 13, 2022

รีวิว งาน Asia Fitness Conference 2022 "Back Together Again" มัน ดีย์ มาก!

 

สวัสดีค่า

Asia Fitness Conference 2022 จบไปแล้ว

วันนี้แพรวจะมาขอรีวิวในฐานะ delegate ที่ร่วมงานเป็นครั้งแรกค่ะ



ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่าประทับใจตลอด 3 วัน

เพราะว่ามันเปี่ยมไปด้วยพลังงานบวกในการออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพ

ทุกคนที่เข้าร่วมงานไม่ว่าจะเป็น presenter ที่มาสอน delegate จากหลายประเทศ

หรือว่า staff เองก็ตาม ทุกคนให้ใจงานนี้มาก

แบบที่รู้สึกถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้จากระยะไกลเลยค่ะ555



แพรวได้เข้าร่วมงานทั้ง 3 วันเลย

ศุกร์ที่ 30 ก.ย. - อาทิตย์ที่ 2 ต.ค. 65

วันแรกนอกจาก sessions ต่างๆไม่ว่าจะเป็น workshop หรือ บรรยาย 

ก็จะมีพิธีเปิดแล้วก็การแข่งขันค่ะ เต้น, Blazepod, Trainer of the Year




(กรรมการเต้น)


(แข่ง Blazepod)


ที่เพิ่มมาใหม่อีกอย่างของปีนี้ก็คือบอร์ด social media ที่ให้ผู้ร่วมงานมาแลกเปลี่ยน account 

แอดกัน เพิ่ม connection เพื่อนในวงการฟิตเนสค่ะ




โซนแสดงสินค้าและบริการเกี่ยวกับ fitness







บรรยากาศใน session ต่างๆ

ส่วนใหญ่คลาสที่แพรวเลือกลงจะเป็นแบบบรรยายค่ะ

เช่น Nutrition for the Female Athlete หรือ The Microbiome, Athletics and You

 ของครู Douglas Kalman (แพรวสนใจเรื่อง nutrition เป็นพิเศษค่ะ)

ก็ได้ความรู้แบบเต็มๆเลย 



(Douglas Kalman - AFC Presenter)


แต่ก็มีบางคลาสที่เป็น workshop เช่น Do's and Dont's of Running Form 

หรือ Integrated Strength Coordination Training ของครู Ranell Hobson

ที่แพรวได้เรียนรู้เทคนิคเพื่อเอามาปรับใช้กับตัวเองในเรื่องของการวิ่งค่ะ




(Ranell Hobson - AFC Presenter)


แล้วแพรวก็ลงคลาส DanceGLAM by DanzFitNation ของครู Tony Stone ด้วยค่ะ

เรียกว่าออกนอก comfort zone ของตัวเองมาก เพราะแพรวไม่ถนัดคลาสเต้น

ก็มีเกร็งๆบ้างแต่โดยรวมก็สนุกมากค่ะ


(ครู Tony Stone - AFC Presenter)



บรรยากาศจาก session อื่นๆ








นอกจากนี้ตรงหน้าทางเข้างานก็มีเตียงนวดด้วยค่ะ

แพรวไปลองนวดมาด้วย คอ บ่า ไหล่ ช่วยผ่อนคลายได้มากเวลาต้องนั่งนานๆ



Saturday Night Party สนับสนุนโดย Technogym

วันเสาร์หลัง session สุดท้ายจบก็มีปาร์ตี้ค่ะ มีอาหาร เครื่องดื่ม

มีการประกวดการแต่งกายและการมอบรางวัล

มีกิจกรรม การเต้นสนุกมากค่ะ








วันสุดท้ายพิธีปิดก็เป็นอะไรที่ซึ้งใจมากๆ

ร่ำลากันไป จบไปอีกหนึ่งครั้ง AFC ได้ความรู้ มิตรภาพ แรงบันดาลใจดีๆกลับบ้านกันทุกคนค่ะ




แพรวเข้าใจเลยว่าทำไมหลายท่านที่เคยมาก็กลับมาซ้ำๆ

นอกจากจะได้ความรู้ ได้หน่วยกิตไปต่อ ACE, AFAA, NASM แล้ว

มันได้ connection จากคนในวงการ fitness 

เราพบมิตรภาพและอาจได้ขยายโอกาสทางการงานได้ที่นี่ค่ะ



ปีหน้าอย่าลืม Thailand Fitness Conference 2023 

แล้วก็ Asia Fitness Conference 2023 (ใช่ค่ะ มีข่าวว่าปีหน้าเค้าจะไม่ข้ามนะ จะจัดต่อเนื่องไปเลย

เพราะหลายคนรอ 2024 ไม่ไหวค่ะ ยังไงรอติดตามข่าวกันนะคะ




Share:

Tuesday, September 27, 2022

แป้ง Srichand Glamour Glow

 

สวัสดีค่า


วันนี้แพรวจะมารีวิวแป้งผสมรองพื้รรุ่นใหม่ล่าสุดจากศรีจันทร์


แป้ง "Srichand Glamour Glow"


หรือ


Srichand Glamour Glow Foundation Powder SPF50 PA++++ 




แบรนด์ส่งมาให้ลองนานแล้วแต่ว่าเพิ่งได้มาทำรีวิว

คืออันนี้พูดตรงๆว่าแบบ ว้าวซ่า ดีไม่ไหว ต้องมารีวิวให้ดูเลยค่ะ




ปล. แพรวมีวผสม ระคายเคืองง่าย มีกระ

*ผลิตภัณฑ์นี้แพรวได้รับการสนันสนุนจากทางแบรนด์ ไม่ได้ซื้อเองค่ะ*


พร้อมแล้วตามมาดูกันเลย!


วิดีโอ





แพรวเขียนรีวิวสั้นๆให้เพื่อนๆที่ไม่สะดวกดูวิดีโออ่าน

ถ้าอยากดูละเอียด (ทา + พาออกไปใช้ชีวิต) กดดูวิดีโอเอาเลยจ้า

ขออภัยหากภาพไม่ชัด แคปมาจากวิดีโออีกทีค่ะ




ตัวแป้ง


แพรวใช้สีเข้มสุดค่ะ ดูในตลับตอนแรกกลัวว่าจะอ่อนไป

แต่พอทาจริงแล้วสว่างนิดนึง พอทาคอนทัวร์แล้วก็พอดีกับผิวค่ะ







ลองทา

ทาแล้วผิวสวยมากกกกกกกกกกกกกกก ก.ไก่ล้านตัว

ให้ผิวโกลว์ สะท้อนแสงได้สวย ปกปิดปานกลาง

ไม่หนักหน้า แต่ดูๆแล้วได้ผิวดิวอี้เกาหลีจากแป้ง ว้อท!!!!

มันดีมากจริงๆค่ะ ส่วนตัวคือ surprise มาก ทาแล้วผิวสวยเกินราคามาก






หมดวัน


คิดว่าโอเคมาก คุมมันพอประมาณ ไม่ทำให้หน้ามันเพิ่มแต่หน้าก็ไม่แห้ง

ตรงที่ผิวมันทาแล้วหมดวันแอบดูเค้กนิดๆเพราะมีน้ำมันไปผสม แต่ตรงที่ผิวธรรมดายังสวยอยู่เลยค่ะ



สรุป



ผิวโกลว์จริง ทาแล้วผิวสวยจริง ราคาน่ารักจริง

ทำได้ตามที่เคลมหมดเลยค่ะ เลิฟ



Share:

Thursday, September 1, 2022

รีวิวคลาสน่าลงที่งาน Asia Fitness Conference 2022

 

สวัสดีค่า

งาน Asia Fitness Conference 2022 ใกล้เข้ามาทุกที

(งานจัด ศุกร์ที่ 30 ก.ย. - อาทิตย์ที่ 2 ต.ค. 65 นี้ ที่ ไบเทค บางนา)



วันนี้แพรวจะมารีวิวคลาสที่แพรวเลือกลงในงาน AFC ตลอด 3 วันกันค่ะ

ว่ามีอะไรบ้าง แล้วมันน่าสนใจยังไงนะคะ

เพราะว่าเค้ามีให้เราเลือกลงได้มากกว่า 140 คลาส

(คลาสที่ว่านี้มีทั้ง workshop, work out, แล้วก็บรรยายแบบ lecture ค่ะ)

โดยผู้สอนที่มาเป็น Presenter ต่างเป็นผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ในสายนั้นๆ

 บางท่านก็ชื่อดังระดับโลกเลยค่ะ

ส่วนตัวตอนเลือกแพรวก็อยากลงหลาย session มากๆค่ะ

แต่บางอันเวลาตรงกันก็ต้องเลือกเอาน่ะน้า


พร้อมแล้วตามมาดูกันเลยค่ะ


-----


วันแรก 30 ก.ย. 65


ตามตามรางคลาสบรรยายและ workshop จะเริ่มตั้งแต่ 8:00 น. ค่ะ

คลาสนึงจะใช้เวลาประมาณ 1 ชม. 15 นาที



08:00 – 09:15 น.

101 – Brain Games are Not Enough (WS) by Jonathan Ross

อันนี้เป็น workshop เกี่ยวกับสุขภาพสมองค่ะ ว่าเทคนิคการออกกำลังกายแบบไหน

จะส่งเสริมสุขภาพสมองทั้งเรื่องความจำ คิดเร็ว สมาธิ ฯลฯ ส่วนตัวคิดว่าน่าสนใจ

นอกจากจะเอาไปใช้กับตัวเองได้แล้วน่าจะช่วยดูแลคนรอบตัวได้ด้วยค่ะ


10:45 – 12:00 น.

112 – 8 Mandatory Movement Patterns for Performance (WS) by Nick Tumminello

workshop เกี่ยวกับการเคลื่อนไหว 8 แบบที่จะช่วยพัฒนาสมรรถภาพทางกีฬาและลดการบาดเจ็บ

แพรวลงเพราะว่าอยากรู้แล้วจะได้เอาไปใช้ในการฝึกซ้อมในชีวิตประจำวันด้วยค่ะ


12:45 – 14:00 น.

126 – Alzheimer’s: Prevent it With Everything You’ve Got (WS) by Jonathan Ross

workshop เกี่ยวกับการป้องกันโรคอัลไซเมอร์ที่อาจเกิดขึ้นได้จาก lifestyle ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้


14:35 – 15:45 น.

137 – Nutrition for the Female Athlete (L) by Douglas Kalman

บรรยายเกี่ยวกับโภชนการสำหรับนักกีฬาผู้หญิง อันน้ีแพรวสนใจมากเลยค่ะ

เพราะว่าทำอาหารกินเอง แผนการซ้อมเรามีโค้ชแล้ว แต่เรื่องอาหารนี่เราบางทีมีคำถาม

ก็ไม่รู้จะไปถามใครคลาสนี้น่าจะได้ประโยชน์กับตัวเองเต็มๆค่ะ


16:15 – 17:30 น.

147 – Optimise Your Immune System in 8 Weeks (L) by Cameron McDonald

คลาสนี้แนะนำเกี่ยวกับการใช้ชีวิต ทั้งกินอาหาร ออกกำลังกาย

ที่จะช่วยเสรมิสร้างให้ภูมิคุ้มกันของเราแข็งแรง แพรวสนใจมากค่ะเพราะรู้สึกร่างกายเหนื่อยบ่อย

คิดว่าน่าจะได้ความรู้ไปปรับใช้กับตัวเอง จะได้ไปต่อได้เต็มที่ในทุกๆด้านค่ะ


-----


วันที่สอง 1 ต.ค. 65


วันที่สองนี้น่าจะคนเยอะค่ะเพราะว่าตรงกับวันเสาร์

เชื่อว่าบางคนก็คงซื้อตั๋วมาแค่เสาร์-อาทิตย์เพราะวันธรรมดาน่าจะติดงานค่ะ


08:00 – 09:15 น.

204 – Meditation for Challenging Times (WS) by Beth Shaw

อันนี้เป็น workshop เกี่ยวกับการทำสมาธิ แพรวว่าน่าจะเอามาปรับใช้กับการใช้ชีวิตประจำวันได้ค่ะ

อยากรู้ด้วยว่าเทคนิคการทำสมาธิของชาวต่างชาติจะต่างหรือเหมือนกับที่พระสอนที่วัดอย่างไร




09:45 – 11:00 น.

211 – The Do’s and Don’ts of Running Form (WS) by Ranell Hobson

หนึ่งใน workshop ที่แพรวตั้งตารอเพราะว่าวิทยากรท่านนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการวิ่งค่ะ

อยากรู้เทคนิคและท่าซ้อมที่จะทำให้การวิ่งของเราดีขึ้น ลดการเกิดอุบัติเหตุค่ะ


11:30 – 12:45 น.

226 – Females’ Hormone Health (WS) by Claire Norgate

แพรวว่าเรื่องเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับสุขภาพของผู้หญิงหาฟังบรรยาย/ workshop ได้ยาก

อันนี้ก็น่าสนใจมากๆค่ะ เค้าจะสอนเกี่ยวกับฮอร์โมนของผู้หญิงกับการฝึกซ้อม

เราจะได้ปรับการซ้อมให้เข้ากับฮอร์โมนในแต่ละช่วงของผู้หญิงค่ะ


13:30 – 14:45 น.

237 –The Microbiome, Athletics and You (L) by Douglas Kalman

เรื่อง microbiome เป็นอีกหัวข้อที่แพรวสนใจเป็นพิเศษ มันเป็นเรื่องของสุขภาพ

แบคทีเรียในลำไส้ที่จริงๆแล้วมีบทบาทกับสุขภาพของเรามากกว่าที่เราคิดไว้มากๆค่ะ

แพรวอยากรู้ว่าเค้าจะบอกอะไรเกี่ยวกับ microbiome กับสมรรถภาพทางกีฬาค่ะ


15:15 – 16:30 น.

243 – DanceGLAM by DanzFitNation (WO) by Tony Stone

คลาสนี้มีคนกระซิบบอกแพรวมาว่า "ห้ามพลาด" ครูที่จะมาสอน

เป็นครูสอนเต้นให้กับนักร้องชื่อดังระดับโลก

แพรวเองเต้นไม่เก่งค่ะ แต่คิดว่าต้องสนุกมากๆแน่ๆ เลยลงไว้รอเลยค่ะ55


-----


วันที่สาม 2 ต.ค. 65



08:00 – 09:15 น.

307 – Top 15 Fat Loss Methods (L) by Benjamin Siong

คลาสนี้น่าสนใจมากเพราะว่าเราจะได้เรียนวิธีการลดไขมันแบบที่มีวิทยาศาสตร์มารองรับ

จัดเต็มมาเลยทั้ง 15 วิธี จะเอามาใช้กับตัวเองก็ได้ จะเอามาใช้กับลูกเทรนลดน้ำหนักลดไขมันก็ดีค่ะ


09:45 – 11:00 น.

317 – Hormones, Health and Body Composition (L) by Cameron McDonald

อันนี้จะเป็นบรรยายเกี่ยวกับ lifestyle เช่น อาหาร การออกกำลังกาย สุขภาพจิต ฯลฯ

ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับฮอร์โมน ร่างกาย แล้วก็สุขภาพของเราอย่างไรค่ะ


11:30 – 12:45 น.

327–Workout Myths- Why You Have Plateaued (L) by Benjamin Siong

แพรวว่าอันนี้ก็เป็นหัวข้อที่หลายๆคนคงอยากรู้ว่าออกกำลังกายหรือลดน้ำหนักไปแล้วมันค้าง

มันไม่ลงเพิ่ม ต้องทำยังไง คลาสนี้เค้าจะมาไขข้อสงสัยพร้อมทั้งชี้ทางออกให้เราค่ะ


13:30 – 14:45 น.

331– Integrated Strength Coordination Training (WSby Ranell Hobson

workshop นี้แพรวสนใจอยากเอามาใช้กับตัวเองล้วนๆเลยค่ะเพราะว่าเค้ารวม

เอาการออกกำลังกายแบบ athletic movements เข้ามาปรับใช้ในการซ้อม

แพรวว่าน่าจะเอามาปรับใช้ในการซ้อมไตรได้

ใครที่เป็นเทรนเนอร์ก็น่าจะเอาไปปรับการเทรนลูกค้าได้ด้วยค่ะ


16:30 – 17:00 น.

345 – Functional vs. Sports Training (WS) by David Liow

ใน workshop นี้เค้าจะสอนการเอาวิทยาศาสตร์กีฬามาจับกับการฝึกซ้อม

วิทยากรเค้าก็สอนนักกีฬาระดับ world-class มาแล้วด้วย

แพรวเลยอยากรู้ค่ะว่ามันเป็นอย่างไร เลยต้องลงค่ะ





จบแล้ว

แพรวรีวิวจากที่เค้าบรรยายคลาสในเว็บตอนเลือก เอาแบบสั้นๆ 3 บรรทัดค่ะ

ใครอยากอ่านข้อมูลคลาสต่างๆเพิ่มเติมแบบเต็มๆไปดูได้ ที่นี่







Asia Fitness Conference 2022

   📍งานจัดระหว่างวันที่ 30 ก.ย. - 2 ต.ค. 65 นี้ ที่ไบเทคบางนา

⚡️🛒✨ซื้อบัตรเข้างานได้ที่ https://www.asiafitconference.com/

สำหรับเพื่อนๆที่ติดตามแพรว แพรวมีโค้ดส่วนลดให้ค่ะ

กรอก AFC2022_Phaptawan ลงในเว็บไซต์ตอนเช็คเอ้าท์ 

รับส่วนลด 10% ทันที (AFC เค้าเพิ่มวันให้ ส่วนลดใช้ได้ถึงวันที่ 2 ก.ย. นี้ค่ะ)






---


แล้วพบกันที่งานนะคะ




Share:

Friday, August 5, 2022

Asia Fitness Conference 2022 มหกรรม Fitness ที่ดีที่สุดในเอเชียที่คนรักสุขภาพต้องห้ามพลาด!

 

สวัสดีค่ะทุกคน

วันนี้แพรวจะพามาทำความรู้จักกับงาน Asia Fitness Conference 2022 

งานมหกรรม Fitness ที่ดีที่สุดในเอเชียที่คนรักสุขภาพต้องห้ามพลาด!

งานจัดระหว่างวันที่ 30 ก.ย. - 2 ต.ค. 65 นี้ ที่ไบเทคบางนา

ปีนี้เรียกได้ว่าเป็นการกลับมาจัดงานครั้งแรกหลังจากที่ห่างหายกันไปกว่าสองปี

สายฟิตเนส สายสุขภาพ สายกีฬา หายคิดถึงกันแน่นนอนค่ะ





งานเป็นอย่างไร?


งานใหญ่ขนาดนี้ก็มีหลายส่วนประกอบค่ะ 

หลักๆเลยที่เป็นไฮไลท์ก็จะมี workshop ให้เลือกเข้ามากมาย

งานจัด 3 วันแต่มี workshop ให้เลือกเข้าร่วมกว่า 200 คลาสทั้งแบบทฤษฎีและปฏิบัติ



โดยที่ผู้สอนนั้นมีแต่มืออาชีพ ตัวจริงในวงการจากทั่วโลก หลายท่านก็มีชื่อเสียงระดับโลกเลยค่ะ

หัวข้อที่บรรยายก็จะมีตั้งแต่การออกกำลังกาย โยคะ กีฬา การฟื้นฟูร่างกาย โภชนาการ ฯลฯ

เรียกได้ว่าครอบคลุมทุกสิ่งสุขภาพ

ปล. สำหรับใครที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษก็ไม่ต้องกลัวนะคะ เพราะแพรวได้ยินมาว่างานปีนี้มีหูฟังให้ใส่

แล้วมีล่ามแปลให้แบบ real-time เหมือนในการประชุมนานาชาติเลยค่ะ (ว้าวซ่า)






นอกจาก workshop แล้วก็มีร้านออกบูทให้ช้อปปิ้งเกี่ยวกับสุขภาพ โปรโมชั่นจัดเต็ม

เสื้อผ้ากีฬา อุปกรณ์ออกกำลังกาย อาหารเสริม เทคโนโลยีเกี่ยวกับสุขภาพใหม่ๆให้เราได้ตื่นตาตื่นใจค่ะ






แพรวว่าที่น่าสนใจอีกอย่างนึง คือ ปีนี้มีหัวข้อ workshop เกี่ยวกับ 

"การบริหารจัดการธุรกิตฟิตเนสและกีฬาในระดับ SME" 

เหมาะมากสำหรับคนที่อยากเปิดฟิตเนส เพราะว่างานนี้เป็นงานรวมคนในวงการค่ะ

เจ้าของกิจการ ครูสอนโยคะ ครูพิลาทีส เทรนเนอร์ ไปรวมตัวกัน

นอกจากจะได้เรียนรู้เทคนิคการทำธุรกิจแบบอัพเดตล่าสุดแล้ว

ยังมีโอกาสได้เจอคอนเนคชั่นเพื่อไปต่อยอดธุรกิจอีกด้วยค่ะ


หรือใครที่กำลังอยากเปลี่ยนสายงาน เบื่องานที่ทำอยู่อยากมาเป็นครูสอนออกกำลังกาย

แพรวว่าก็ควรมางานนี้ค่ะ เพราะว่าที่นี่รวมไว้ให้หมด ต้องได้ไอเดียดีๆกลับบ้านแน่





ไปแล้วจะได้อะไรบ้าง?


นอกจากจะได้ความรู้เกี่ยวกับฟิตเนสและสุขภาพแบบแน่นๆ ได้ช้อปปิ้ง ได้คอนเนคชั่นแล้ว

หากใครเป็นครูสอนออกกำลังกายหรือมีใบเซอร์ที่ต้องต่ออายุ เช่น ACE

ก็สามารถใช้ประกาศนียบัตรหลังจากงานสิ้นสุดเพื่อต่ออายุใบประกาศนียบัตรวิชาชีพสากล

ที่มีสถาบันการสอนออกกำลังกายชั้นนำระดับโลกรองรับมากถึง 5 สถาบัน

โดยที่ไม่ต้องบินไปร่วมถึงที่ต่างประเทศ หรือเก็บชั่วโมงเรียนที่อื่นให้เสียทั้งเวลาเลยค่ะ


เอาจริงๆถ้าเป็นคนในวงการฟิตเนสคือควรไปมากๆ ไปงานเดียวได้หลายต่อมาก คุ้มในคุ้มค่ะ




มีค่าใช้จ่ายไหม?


บัตรเข้างานมีให้เลือก 2 แบบ คือ แบบ 2 วัน (เสาร์-อาทิตย์) และ แบบ 3 วัน (ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์)

ราคาตามนี้เลยค่ะ



   📍งานจัดระหว่างวันที่ 30 ก.ย. - 2 ต.ค. 65 นี้ ที่ไบเทคบางนา

⚡️🛒✨ซื้อบัตรเข้างานได้ที่ https://www.asiafitconference.com/

สำหรับเพื่อนๆที่ติดตามแพรว แพรวมีโค้ดส่วนลดให้ค่ะ

กรอก AFC2022_Phaptawan ลงในเว็บไซต์ตอนเช็คเอ้าท์ 

รับส่วนลด 10% ทันที (รีบกันน้า ส่วนลดใช้ได้ถึงวันที่ 31 ส.ค. นี้เท่านั้นค่ะ)



มากันเยอะๆน้า

แล้วพบกันที่งาน AFC 2022 นะคะ



Share:

Thursday, July 14, 2022

รีวิวทำหน้าเด็ก กรอบหน้าชัดด้วย Ulthera SPT+ ที่ THE KLINIQUE

 

สวัสดีค่าทุกคน

วันนี้แพรวจะมีรีวิวหนึ่งในทรีตเม้นต์ความงามที่คนพูดถึงกันเยอะมากๆในตอนนี้

เพราะว่าเป็นนวัตกรรมที่ช่วยให้หน้าเด็ก หน้ากระชับขึ้น

โดยที่ไม่ต้องลงมีด ไม่ต้องผ่าตัดศัลยกรรมค่ะ

ซึ่งนวัตกรรมที่ว่านี้ก็คือ Ulthera SPT+ (อัลเทอร่า เอสพีที พลัส) 

ที่ THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์) นั่นเองค่ะ




*Treatment นี้แพรวได้รับการสนับสนุนจากทางแบรนด์นะคะ ไม่ได้จ่ายเงินเองนะคะ*


Ulthera (อัลเทอร่า/อัลเทร่า) หรือบางที่ภาษาอังกฤษก็เรียกว่า Ultherapy (อัลเทอราปี)

หลักการการทำงานของเค้าเล่าแบบเข้าใจง่ายๆก็คือ 

ตัวเครื่องจะยิงคลื่นพลังงานอัลตร้าซาวด์เข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิว

โดยคลื่นพลังงานอัลตร้าซาวด์นี้จะเข้าไปให้ความร้อนแก่เนื้อเยื่อผิวด้านใน

เพื่อกระชับผิวจากภายในโดยที่ไม่ทำร้ายพื้นผิวด้านบน

ผลลัพธ์ก็คือ ผิวที่เคยหย่อนคล้อยจะยกกระชับขึ้น เสริมสร้างคุณภาพผิว ให้ผิวดูอิ่ม ดูแน่น ริ้วรอยดูตื้นขึ้น


ที่ว่ามาคือหลักการของ Ulthera ทั่วไป แต่ความพิเศษที่แพรวจะมารีวิวนี้อยู่ที่ Ulthera SPT+ ค่ะ

เพราะว่าเป็นการอัปเดตนวัตกรรม Ulthera รุ่นล่าสุด จุดเด่นอยู่ที่...

  • มีความเสถียรในการให้พลังงาน 
  • อ่อนโยนมากกว่ารุ่มเดิม


เทคโนโลยีการรักษา ‘SPT’ (See-Plan-Treat) ทำให้พลังงานสามารถลงลึกได้อย่างจำเพาะไปถึงชั้น SMAS และโครงสร้างผิวได้ครบทุกระดับชั้น ส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพต่อการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้สูง

‘S’ (See) New Ulthera SPT เป็นนวัตกรรมเดียว ที่ช่วยให้แพทย์เห็นภาพชั้นผิวทุกชั้นได้ตลอดเวลา (Real-Time Visualization System) แพทย์จึงสามารถระบุปัญหาผิวได้อย่างชัดเจน เนื่องจากผิวในแต่บริเวณที่มีความแตกต่างกัน

‘P’ (Plan) แพทย์จะเลือกเทคนิคการรักษาให้มีความจำเพาะต่อปัญหาผิวที่มีความแตกต่างกันในแต่ละบริเวณ รูปแบบการรักษาที่ได้จึงมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้นด้วย

‘T’ (Treat) การรักษาที่จำเพาะต่อปัญหาผิว และการปล่อยพลังงานอย่างแม่นยำไปยังชั้น SMAS และรอยต่อของผิวชั้นใน ร่วมกับพลังงานที่มีความอ่อนโยนต่อผิวมากขึ้น นอกจากจะทำให้ผลลัพธ์ชัดเจนแล้ว ยังช่วยผ่อนคลายผิวมากขึ้นด้วย



พอจะรู้จัก Ulthera SPT+ กันแล้ว

ถ้าพร้อมแล้วก็ตามแพรวมาทำ Ulthera SPT+ กันเลยค่ะ

ครั้งนี้แพรวมารับการบริการที่ Central พระราม 9 ค่ะ


มาดูหน้า Before กันก่อนค่ะ

(รูปไม่ผ่านการแต่งใดๆ)




แพรวอายุเลข 3 ต้นๆยังไม่ได้มีปัญหาผิวหย่อยคล้อยเป็นพิเศษค่ะ

แต่ว่าอยากให้โครงหน้าเป๊ะๆ ผิวแน่นๆ เลยตัดสินใจมาลองทำ Ulthera SPT+ ค่ะ



---



ขั้นตอนการทำ Ulthera SPT+


ขั้นตอนแรกเลยเราก็ลบเครื่องสำอาง แล้วก็แปะยาชานะคะ

แปะไว้ประมาณ 1 ชม.เลย แพรวก็หลับรอเลยค่ะ พนังงานที่นี่มืออาชีพมากๆค่ะ




พอยาชาครบเวลาก็ได้พบคุณหมอค่ะ

คุณหมอก็จะประเมินผิวของเราว่าตรงไหนต้องเน้นเป็นพิเศษหรือไม่

คุณหมอจะมีดินสอมาเขียนแบ่งโซนบนหน้าของเราด้วยค่ะ

จากนั้นก็ลงมือทำ Ulthera SPT+ เลยค่ะ

เอาจริงๆระยะเวลาในการทำไม่นานค่ะ ไม่ถึง 1 ชม.เลย ประมาณ 45 นาทีก็เสร็จแล้วค่ะ


หน้าจอจะแสดงผลแบบ real-time เลยค่ะว่าผิวตรงไหนเป็นอย่างไร



อันนี้ต้องถูกใจหลายๆคนแน่เลยค่ะ เก็บเหนียง555



คุณหมอจะยิงเก็บไปทีละโซนจนครบทั้งหน้าค่ะ



สังเกตดูคุณหมอจะเอามือประคอศีรษะเราไว้ตลอดค่ะเพื่อให้เครื่องแนบกับผิวเราที่สุด


ทำอัลเทอร่าเจ็บไหม???

คำถามยอดฮิต แพรวขอตอบแบบซื่อสัตย์สุดๆนะคะ

เจ็บค่ะ แต่เจ็บแบบทนได้ เพราะ...

1. แปะยาชาไว้แล้วตั้ง 1ชม.

2. Ulthera SPT+ เจ็บน้อยกว่า Ulthera แบบเดิม

3. ความเจ็บมันไม่ได้เจ็บแบบหนังยางดีดผิวเหมือนเวลาเราทำเลเซอร์ทั่วไปนะคะ 

มันจะเป็นความรู้สึก จิ๊ดๆ ในชั้นที่ค่อนข้างลึกค่ะ และจะให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับ

ความปวดมากกว่าความเจ็บ ทั้งนี้ทั้งนั้น แพรวให้คะแนนความเจ็บอยู่ที่ 6.5-7/10


มาดูผลลัพธ์กัน

หลังทำทันทีจะเห็นผลเลยกว่าหน้ากระชับ หน้ายก ประมาณ 20% ค่ะ

จากนั้นจะค่อยๆเห็นผลมากขึ้นจนไปอยู่ตัว 100% เมื่อเวลาผ่านไป 3 เดือนหลังทำนะคะ


Before - After หลังทำทันที

(รูปไม่ผ่านการแต่งใดๆ)






โอ้แม่เจ้า! หน้าตรงดูเด็กลงทันที555

แพรวว่าช่วงแก้มมันยกขึ้น แบบเห็นได้ชัดเลยค่ะ

ช่วงล่างของหน้า โดยเฉพาะบริเวณคางก็ดูยกขึ้น เหมือนหน้าหดได้เลยค่ะ

กรอบหน้าก็ชัดขึ้นนะคะ


---


หลังทำ Ulthera SPT+ เค้าบอกว่ามันจะมีอาการระบมอยู่บ้าง

วันแรกที่ทำแพรวไม่รู้สึกอะไรนะคะ จนมา 2-3 วันให้หลังรู้สึกว่ามันระบมเหมือน

เวลาเราไปออกกำลังกายหนักๆแล้วเมื่อยกล้ามเนื้อ ประมาณนั้นค่ะ

แต่ถ้าไม่ไปจับหน้าก็ไม่รู้สึกอะไรนะคะ



มาดูหลังผ่านไป 1 สัปดาห์กันค่ะ

(รูปไม่ผ่านการแต่งใดๆ)

ขออภัยหน้าสดมากค่ะ555 อยู่บ้านช่วงนี้แพรวถือโอกาสพักหน้าพักผิวยาวเลยค่ะ





ส่วนล่างของใบหน้าดูกระชับขึ้นค่ะเมื่อเปรียบเทียบกัน

เหมือนคางยาวน้อยลง โครงหน้าโดยรวบกระชับขึ้นค่ะ


Ulthera SPT+ อยู่ได้ประมาณ 1 ปีค่ะ

ทั้งนี้ก็แล้วแต่ร่างกายของแต่ละคนด้วย

บางคนก็ไปทำ Ulthera SPT+ ปีละ 2 ครั้งก็มีค่ะ

ก็แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่าเหมาะสมกับตัวเราไหมนะคะ


สรุป

ข้อดีของ Ulthera SPT+ คือ ทำแล้วเห็นผลเลย 20% หลังทำแล้วก็ดูแลง่าย ไม่ต้องมีข้อระวังเยอะ

ทำแล้วก็ใช้ชีวิตได้ปกติ กิน นอน ออกกำลังกาย ได้หมด ตามปกติค่ะ

ส่วนข้อเสีย คือ ราคาตอนนี้อาจจะยังค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับ treatment ตัวอื่นๆ

แต่พอทำแล้วผลลัพธ์ประทับใจค่ะ เรียกได้ว่าสมราคา

อีกข้อที่ควรพิจารณาคือประสบการณ์และฝีมือของแพทย์ที่ทำให้เราค่ะ

เพราะว่า treatment ความงามแบบนี้ต้องการผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ



---


Ulthera SPT+ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย โครงหน้าและกรอบหน้าไม่ชัดเจน ดูไม่เรียวกระชับ แนวคิ้วและหางตาตก และผู้ที่ต้องการฟื้นฟูโครงสร้างผิว ช่วยปรับให้ผิวดูอ่อนเยาว์ มีความยืดหยุ่นดูอ่อนกว่าวัยยิ่งขึ้น 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม THE KLINIQUE (เดอะคลีนิกค์)  ผู้เชี่ยวชาญด้านเลเซอร์ผิวและรูปร่างครบวงจรได้ที่ www.theklinique.com    
Line id : @theklinique (มี@)
Instagram : theklinique
โทร. 080-000-9800, 088-887-8900

#theklinique #เดอะคลีนิกค์ #UltheraSPT






Share:
Blog Design Created by pipdig